ราคายาต้านไข้หวัดใหญ่ ราคาเท่าไร?

ราคายาต้านไข้หวัดใหญ่

ราคายาต้านไข้หวัดใหญ่

จีพีโอ-เอ-ฟู (โอเซลทามิเวียร์)

  • ราคาครั้งละ 1,250 (ไม่รวมค่าแพทย์ แล็ป และอื่นๆ)

ฟาเวียร์ (ฟาวิพิราเวียร์)

  • ราคาครั้งละ 1,200 (ไม่รวมค่าแพทย์ แล็ป และอื่นๆ)

หมายเหตุ : การจ่ายยาต้านไข้หวัดใหญ่ขึ้นอยู่กับแพทย์เท่านั้น คนไข้จะต้องได้รับการตรวจประเมินร่างกายและการวินิจฉัยอาการจากแพทย์เพื่อรักษาโรคและจ่ายยา

รับยาต้านไข้หวัดใหญ่ ราคาสบายกระเป๋า 

จีพีโอ-เอ-ฟู (โอเซลทามิเวียร์)

ส่วนประกอบของยา

  • ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วยตัวยา โอเซลทามิเวียร์ ฟอสเฟต เทียบเท่ากับ โอเซลทามิเวียร์ 30 มิลลิกรัม, 45 มิลลิกรัม และ 75 มิลลิกรัม

ลักษณะของยา

  • จีพีโอ-เอ-ฟลู (30 มิลลิกรัม) ผงยาสีขาว บรรจุในแคปซูลเบอร์ 4 สีส้ม ฝาแคปซูลมีตัวอักษร "OSEL" ตัวแคปซูลมีตัวเลข "30"

  • จีพีโอ-เอ-ฟลู (45 มิลลิกรัม) ผงยาสีขาว บรรจุในแคปซูลเบอร์ 4 สีเขียว ฝาเเคปซูลมีตัวอักษร "OSEL" ตัวแคปซูลมีตัวเลข "45"

  • จีพีโอ-เอ-ฟลู (75 มิลลิกรัม) ผงยาสีขาว บรรจุในแคปซูลเบอร์ 2 ตัวแคปซูลสีครีม ฝาครอบสีเหลือง


ข้อบ่งใช้

  • จีพีโอ-เอ-ฟลู ใช้รักษาและป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ทั้งชนิด เอ หรือ บี ในผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 13 ปี ขึ้นไป องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ในการรักษาผู้ที่เกี่ยวข้องกับการชำแหละสัตว์ปีก ซึ่งสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ จากสัตว์ปีก (H5N1) ในทางเดินหายใจ


จีพีโอ-เอ-ฟู (โอเซลทามิเวียร์)

ขนาดและวิธีใช้

การรักษาการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ และ บี และการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด เอ จากสัตว์ปีก

ผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 13 ปี ขึ้นไป : รับประทานครั้งละ 75 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

เด็กอายุ 1-12 ปี : 

  • น้ำหนักตัวต่ำกว่าหรือเท่ากับ 15 กิโลกรัม : รับประทานครั้งละ 30 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

  • น้ำหนักตัวมากกว่า 15 กิโลกรัม - 23 กิโลกรัม : รับประทานครั้งละ 45 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

  • น้ำหนักตัวมากกว่า 23 กิโลกรัม - 40 กิโลกรัม : รับประทานครั้งละ 60 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

  • น้ำหนักตัวมากกว่า 40 กิโลกรัม : รับประทานครั้งละ 75 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

หมายเหตุ :

  • ควรเริ่มรักษาด้วยยาภายใน 2 วันที่มีอาการโรคไข้หวัดใหญ่

  • สำหรับผู้ใหญ่ที่มีค่าอัตราการขับ Creatinine ออกจากร่างกาย (Creatinine clearance) 10-30 มิลลิลิตร/นาที ให้รับประทานครั้งละ 75 มิลลิกรัม 5 วัน


รับยาต้านไข้หวัดใหญ่ ราคาสบายกระเป๋า

คุณสมบัติทางเภสัชวิทยาและเภสัชจลนศาสตร์

  • กลไกการออกฤทธิ์ : ไอเซลทามิเวียร์เป็นยาต้านไวรัส ซึ่งเป็นสารยับยั้งที่แรงและจำพาะต่อเอนไซม์ Neuraminidase ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เอนไซม์นี้มีความสำคัญในการแบ่งตัวของไวรัสโคยทำหน้าที่ตัด Sialic Acid ออกจาก Glycoconjugate ทำให้ไวรัสถูกปล่อยจากเซลที่ติดเชื้อ ป้องกันการรวมกลุ่มของไวรัสภายหลังถูกปล่อยจาก Host cell และอาจลดคุณสมบัติการทำให้ไวรัสอ่อนแรงของสารคัดหลั่งในทางเดินหายใจ เมื่อทดลอง In vitro โอเซลทามิเวียร์ออกฤทธิ์แรงในการต้านเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งชนิด เอ และ บี และยานี้ออกฤทธิ์ด้านเชื้อไวรัสไช้หวัดใหญ่ชนิด เอ จากสัตว์ปีกบางสายพันธุ์ (รวมทั้งสายพันธุ์ H5N1 H7N2 และ H9N2) เมื่อทดลอง In vitro และ In vivo นอกจากนี้เมื่อทดลอง In vitro ไอเซลทามิเวียร์ยังออกฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสไช้หวัดใหญ่ชนิด เอ จากสัตว์ปีก (สายพันธ์ H5N1) ซึ่งแยกได้จากผู้ป่วยในประเทศเวียดนามและประเทศไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2547

  • เภสัชจลนศาสตร์ : โอเซลทามิเวียร์ถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วจากทางเดินอาหารเมื่อรับประทานในรูปของโอเซลทามิเวียร์ ฟอสเฟต และถูกเปลี่ยนแปลงเป็นสารเมตาบอไลท์ที่มีฤทธิ์โดยเอนไซม์ Esterases ในตับ อย่างน้อย 75% ของยาที่รับประทานจะถูกดูดซึมเข้าไปในกระเเสเลือดในรูปสารเมตาบอไลท์ที่มีฤทธิ์ ระดับสารเมตาบอไลท์ที่มีฤทธิ์ในเลือดจะสูงสุดหลังรับประทานภายใน 2-3 ชั่วโมง มีปรึมาตรการกระจายตัวเฉลี่ยประมาณ 23 ลิตรในคน จับกับโปรตีนในพลาสมาประมาณ 3% มีค่าครึ่งชีวิต 6-10 ชั่วโมง และมากกว่า 99% ถูกขับออกทางไต


ข้อห้ามใช้ยาโอเซลทามิเวียร์

ข้อห้ามใช้ยาโอเซลทามิเวียร์

  • ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ยาโอเซลทามิเวียร์ หรือสารประกอบอื่นๆ ในยานี้

ข้อควรระวัง

  • ยาโอเซลทามิเวียร์ถูกขับออกทางน้ำนมในหนูทดลอง สำหรับในคนยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะถูกขับออกทางน้ำนมหรือไม่ ดังนั้นจึงควรใช้ด้วยความระมัดระวังในหญิงที่ให้นมบุตร และควรไข้ฉพาะเมื่อคาดว่าผลการรักษาคุ้มกับความเสี่ยงที่อาจเกิดกับทารก

  • ไม่แนะนำให้ใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี เนื่องจากยังไม่ทราบอัตราการเจริญเติบโดที่แน่นอนของ Blood-brain barier ในคน และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อมูลด้านพิษวิทยาที่รายงานในสัตว์จะมีความเกี่ยวข้องทางคลินิกกับทารกหรือไม่

  • ยังไม่มีการประเมินความปลอดภัยและเภสัชจลนศาสตร์ในผู้ป่วยที่ตับเสื่อม

  • แนะนำให้ปรับขนาดยาในผู้ป่วยที่มีคำ Creatinine clearance 10-30 มิลลิลิตร/นาที การปรับขนาดยาไม่สามารถใช้กับผู้ป่วยไตวายระยะสุดท้าย (เช่น คำ Creatinine clearance น้อยกว่า 10 มิลลิลิตร /นาที) และผู้ป่วยที่ใด้รับการล้างไตโดยการฟอกเลือด (Hemodialysis) หรือการล้างไตโดยใส่สารล้างทางช่องท้อง (Peritoneal dialysis)

  • หลังการจำหน่ายมีรายงานของการทำร้ายตนเองและการเพ้อในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ใช้ยาโอเซลทามิวียร์ (ส่วนใหญ่เกิดในประเทศญี่ปุ่น) มักพบรายงานในผู้ป่วยเด็ก ยังไม่ทราบว่ายาโอเซลทามิเวียร์ มีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้หรือไม่ ควรเฝ้าระวังถึงสัญญาณของพฤติกรรมผิดปกติในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตลอดการรักษาด้วยยาโอเซลทามิเวียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการรักษาสองสามวันแรก


การใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีระหว่างให้นมบุตร

การใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีระหว่างให้นมบุตร

การศึกษาในหนูพบว่า โอเซลทามิเวียร์จะถูกขับออกทางน้ำนม สำหรับคนยังไม่ทราบแน่ว่าโอเซลทามิเวีชร์จะถูกขับออกทางน้ำนมหรือไม่ ดังนั้นการใช้โอเซลทามิเวียร์ในแม่ที่ให้นมลูกจึงควรใช้เฉพาะเมื่อคาดว่าผลการรักษาที่ได้จะคุ้มกับความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดกับทารก


อาการข้างเคียงของยาต้านไข้หวัดใหญ่

คลื่นไส้ร่วมกับอาเจียนหรือโดยไม่อาเจียน อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เลือดกำเดาไหล โรคเกี่ยวกับหู เยื่อบุตาอักเสบ มึนงง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ไอ เวียนศีรษะ และอ่อนล้า


การได้รับยาเกินขนาดและการรักษา

ยังไม่มีรายงานการใช้ยาเกินขนาด อย่างไรก็ตามอาการที่คาดว่าอาจเกิดขึ้นจากการได้รับยาเกินขนาดเฉียบพลัน คือ คลื่นไส้ ร่วมกับอาเจียนหรือโดยไม่อาเจียน


รับบริการที่อินทัชเมดิแคร์คิลินิก

ฟาเวียร์ (ฟาวิพิราเวียร์)

ส่วนประกอบและปริมาณตัวยาสำคัญ


ลักษณะและรูปแบบยาทางเภสัชกรรม

  • เม็ดกลม นูน  เคลือบฟิล์มสีเหลือง ด้านหนึ่งมีตัวอักษร "F" อีกด้านหนึ่งเรียบ 


ข้อบ่งใช้

  • ฟาเวียร์มีข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่หรือโรคอุบัติซ้ำจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เมื่อใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้ผลหรือมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ


ขนาดยาและวิธีการใช้ยา

ขนาดยาและวิธีการใช้ยา

ฟาเวียร์ให้โดยการรับประทาน

ผู้ใหญ่ : ขนาดการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ใหญ่คือ 1600 มิลลิกรัม รับประทานวันละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1

จากนั้นให้รับประทานในขนาด 600 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้งต่อเนื่องไปอีก 4 วัน โดยมีระยะเวลาการใช้ยานี้ทั้งหมด 5 วัน

ข้อควรระวัง : ควรใช้ยานี้ทันที หลังจากที่เริ่มมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่


รับยาต้านไข้หวัดใหญ่ ราคาสบายกระเป๋า

คุณสมบัติทางเภสัชวิทยา

คุณสมบัติทางเภสัชพลศาสตร์

  • ฤทธิ์ต้านไวรัสในหลอดทดลอง : ฟาวิพิราเวียร์แสดงฤทธิ์ต้านไวรัสต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ และ สายพันธุ์ บี ในห้องปฏิบัติการ ที่มีค่าความเข้มข้น ที่ให้ประสิทธิภาพ 50% (EC50) เท่ากับ 0.014-0.55 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร 

  • ค่า EC50 ต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอ และ สายพันธุ์ บี ตามฤดูกาล รวมถึงสายพันธุ์ที่ดื้อต่อ adamantane (amantadine และ rimantadine) oseltamivir หรือ zanamivir เท่ากับ 0.03 - 0.94 และ 0.09-0.83 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ตามลำดับ

  • ค่า EC50 ต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (รวมถึงสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยา adamantane, oseitamivir หรือ zanamivi) เช่น ไข้หวัดหมูและไข้หวัดนก รวมถึงสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคได้สูง (รวมถึง เฮซ5เอ็น1 และ เฮช7เอ็น9) เท่ากับ 0.06-3.53 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร

  • ค่า EC50 ต่อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ และสายพันธุ์ บี ที่ดื้อต่อยา adamantane, oseltamivir หรือ zanamivir) เท่ากับ 0.09-0.47 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร และไม่พบการดื้อข้ามสายพันธุ์

คุณสมบัติทางเภสัชจลนศาสตร์

  • การดูดซึมยา : ตามตารางในเอกสารกำกับยาแสดงตัวแปรทางเภสัชจลนศาสตร์ของยาฟาวิพิราเวียร์ หลังให้ยาในอาสาสมัครสุขภาพดี 8 ราย โดยการรับประทาน ในขนาด 1600 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 1 วัน แล้วลดขนาดยาเหลือ 600 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 วัน แล้วตามด้วย 600 มิลลิกรัม วันละหนึ่งครั้งอีก 1 วัน (1600 มิลลิกรัม/600 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง)


ข้อควรระวังในการใช้ยาต้านไข้หวัดใหญ่

ข้อห้ามใช้

  • ในสตรีมีครรภ์หรือสงสัยว่าว่าจะตั้งครรภ์ (เนื่องจากพบการก่อให้เกิดทารกวิรูปและการตายของตัวอ่อนระยะแรกในการศึกษาในสัตว์ทดลอง)

  • ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ต่อส่วนประกอบใดๆในยานี้


ข้อควรระวังในการใช้ยา

  • เนื่องจากพบการก่อให้เกิดทารกวิรูปและการตายของตัวอ่อนระยะแรกในการศึกษาในสัตว์ทดลองของฟาวิพิราเวียร์ จึงห้ามใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์

  • เมื่อจะใช้ฟาวิพิราเวียร์กับสตรีที่มีศักยภาพในการตั้งครรภ์ ให้ยืนยันผลการทดสอบการตั้งครรภ์ที่เป็นลบก่อนเริ่มต้นการรักษา อธิบายถึงความเสี่ยง และแนะนำวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพให้กับคู่ของสตรีเหล่านั้นระหว่างที่ทำการรักษา และสิ้นสุดการรักษาแล้ว 7 วัน ถ้าสงสัยว่าตั้งครรภ์ระหว่างรักษา ให้หยุดการรักษาทันทีและปรึกษาแพทย์

  • สามารถพบฟาวิพิราเวียร์ได้ในอสุจิ เมื่อใช้ยานี้ในผู้ป่วยเพศชายควรอธิบายถึงความเสี่ยง และแนะนำวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ในการมีเพศสัมพันธ์ช่วงระหว่างที่ทำการรักษาและหลังสิ้นสุดการรักษาแล้ว 7 วัน (ผู้ชายต้องสวมถุงยางอนามัย) นอกจากนี้ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กับหญิงตั้งครรภ์

  • ก่อนเริ่มรักษา ให้อธิบายถึงประสิทธิภาพ และความเสี่ยง (รวมถึงความเสี่ยงของการสัมผัสกับทารกในครรภ์) เป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ป่วยหรือสมาชิกในครอบครัว และต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร

  • ควรใช้ฟาวิพิราเวียร์ เท่าที่จำเป็น ด้วยความรอบคอบ


การใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีระหว่างให้นมบุตร

การใช้ยาในสตรีมีครรภ์และสตรีระหว่างให้นมบุตร

สตรีมีครรภ์ : ไม่ควรใช้ฟาเวียร์ในสตรีมีครรภ์ หรือสงสัยว่าจะตั้งครรภ์ (ในการศึกษาในสัตว์ที่ได้รับยาในขนาดใกล้เคียงหรือขนาดต่ำกว่าที่ใช้ทางคลินิก พบว่ามีการตายของตัวอ่อนระยะแรก และความเป็นพิษต่อทารกในครรภ์)

สตรีระหว่างให้นมบุตร : เมื่อให้ฟาวิพิราเวียร์ในหญิงให้นมบุตร แนะนำให้หยุดการให้นมบุตร (พบเมตาบอไลท์หลักของฟาวิพิราเวียร์ในรูปของไฮดรอกซิเลทได้ในน้ำนมแม่)


รับบริการที่อินทัชเมดิแคร์คิลินิก

อาการไม่พึงประสงค์

1. อาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญทางคลินิกพฤติกรรมที่ผิดปกติ (ไม่ทราบความถี่อุบัติการณ์) : แม้ว่าจะไม่ทราบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ แต่พฤติกรรมที่ผิดปกติ (เช่น การวิ่งหนีไปอย่างกะทันหัน เดินเตร็ดเตร่) อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ สะดุดล้ม ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้

2. อาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญทางคลินิก (จากยาที่คล้ายคลึงกัน) พบรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่สำคัญทางคลินิกดังต่อไปนี้ จากการใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ตัวอื่น ผู้ป่วยควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างใกลัชิด หากพบอาการผิดปกติใดๆ ควรหยุดการรักษาและให้การรักษาแก้ไขที่เหมาะสม

  • ภาวะช็อค. อะนาพัยแลคชิส

  • ปอดบวม

  • โรคตับอักเสบอย่างรุนแรงและรวดเร็ว, ตับทำงานผิดปกติ, ดีช่าน

  • การแพ้ยาทางผิวหนังอย่างรุนแรงแบบ Toxic epidermal necrolysis (TEN). oculomuco-cutaneous syndrome (Stevens-Johnson syndrome)

  • การบาดเจ็บของไตเฉียบพลัน

  • การลดลงของจำนวนเม็ดเลือดขาว, นิวโทรฟิล, เกล็ดเลือด

  • อาการทางระบบประสาทและจิตเวช (ความรู้สติถูกรบกวน, เพ้อ, หลอน, อาการหลงผิด, ซัก เป็นต้น)

  • โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ มีเลือดออก

3. อาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ ถ้ามีอาการไม่พึงประสงค์เหล่านี้เกิดขึ้น ควรให้การรักษาแก้ไขที่เหมาะสมตามอาการ


รับยาต้านไข้หวัดใหญ่ ราคาสบายกระเป๋า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้