ยาเป๊ป pep (Post-Exposure Prophylaxis) ยาต้านเอชไอวีฉุกเฉิน หลังสัมผัสเชื้อไม่เกิน 72 ชม. รวมข้อควรรู้เกี่ยวกับยา PEP วิธีกินยา หยุดยา และประสิทธิภาพการ ป้องกัน ยาเป๊ป ยาต้านเอชไอวีฉุกเฉิน ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักกันมากเท่าไรนัก เนื่องจากเป็นยาที่ต้องทำการสั่งจ่ายโดยแพทย์และสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่สามารถหาซื้อกินเองได้ตามร้านขายยาทั่วไป
ดังนั้น ก่อนที่จะได้รับยาต้านเชื้อชนิดนี้ ต้องมีการซักประวัติ และตรวจอย่างละเอียดโดยแพทย์ พร้อมทั้งคำแนะนำในการกินยาที่ถูกต้อง เราไปดูกันเลยว่าการกินยาเป๊ปต้องทำอย่างไร ผลข้างเคียงของยาเป๊ปเป็นอย่างไรบ้าง ส่งผลอันตรายกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน อินทัชเมดิแคร์มีคำตอบให้คุณค่ะ
ยาเป๊ป PEP (Post-Exposure Prophylaxis) หรือ HIV PEP คือ ยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV แบบฉุกเฉิน เป็นยาต้านไวรัสกรณีฉุกเฉินหลังสัมผัสเชื้อ ต้องกินยาหลังจากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส HIV ภายใน 72 ชั่วโมงและกินยาต่อเนื่องนาน 30 วัน
การสัมผัสเชื้อ HIV ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ เนื่องจากเชื้อไวรัส HIV สามารถแบ่งตัวได้เร็วมากภายใน 24-36 ชั่วโมง จึงต้องได้รับยาเร็วที่สุดหลังเกิดเหตุการณ์เสี่ยง และช้าสุดไม่เกินภายใน 72 ชั่วโมง
สูตรยาเป๊ป ที่แนะนำ ประกอบด้วยยา 3 ตัวรวมในเม็ดเดียว ได้แก่ Tenofovir (TDF) 300 mg Emtricicabine (FTC) 200 mg และ dolutegravir (DTG) 50 mg นอกจากนี้ยังมีสูตรยาอื่นๆอีกซึ่งแพทย์จะปรับยาตามเงื่อนไขของผู้รับบริการแต่ละราย
ยาเป๊ปได้รับการยืนยันแล้วว่าสามารถป้องกันการการติดเชื้อได้อย่างน้อย 80% แต่เนื่องจากยาเป๊ปเป็นยาป้องกันฉุกเฉินหลังจากเสี่ยงได้รับเชื้อมาแล้ว ประสิทธิภาพของยาจึงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งระยะเวลาเริ่มยายิ่งเริ่มเร็วก็จะป้องกันได้ดีกว่า ลักษณะและระยะเวลาของการได้รับเชื้อ ปริมาณเชื้อในผู้ติดเชื้อหากมีเชื้อมากประสิทธิภาพก็จะน้อยลง เป็นต้น
" ดังนั้น ควรใช้ยาเป๊ป เมื่อฉุกเฉินเท่านั้น หากเสี่ยงบ่อยแนะนำให้กินยาเพร็พ (ป้องกันก่อนเสี่ยง) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงจะดีกว่า "
มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็น HIV หรือไม่ทราบว่าเป็น HIV หรือไม่ แล้วไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย หรือถุงยางอนามัยฉีกขาด
ใช้เข็มฉีดยาร่วมกันกับผู้อื่น
ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
สัมผัสสารคัดหลั่งที่ทำให้ติดเชื้อได้ โดยโดนผิวหนังที่มีแผลเปิดและสัมผัสเชื้อมาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนมารับยาเป๊ป
หากไม่มั่นใจว่าการสัมผัสนั้นทำให้ติดเชื้อได้หรือไม่ สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนได้โดยเร็วที่สุด
ยาเป๊ป PEP มีความปลอดภัยมาก หากผู้รับบริการกินยาอย่างถูกต้องและอยู่ในการดูแลของแพทย์ ผลข้างเคียงของยาเป๊ปรุ่นใหม่ไม่รุนแรงเท่ายาในอดีตแล้ว อาการข้างเคียงที่พบได้ เช่น
คลื่นไส้
อ่อนเพลีย
เวียนศีรษะ
ถ่ายเหลว
อาการข้างเคียงต่างๆ มักจะเป็นเพียงช่วงแรกของการทานยาและอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง แต่หากอาการรุนแรงมากสามารถแจ้งแพทย์ผู้ดูแลเพื่อให้การรักษาและตรวจเพิ่มเติม
หมายเหตุ : การกินยาเป๊ป กินเพียง 30 วัน จึงไม่ต้องกังวลถึงผลข้างเคียงระยะยาว
ยาเป๊ป pep ยาต้านฉุกเฉิน ป้องกัน HIV ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา PEP ก่อนเริ่มยาเป๊ป PEP ผู้รับบริการต้องทำการปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามประวัติ โรคประจำตัว และข้อมูลอื่นๆ และต้องทำการตรวจเลือด HIV เพื่อหาเชื้อไวรัส HIV , ค่าไตและค่าตับ ก่อนกินยาเป๊ปทุกราย และตรวจการตั้งครรภ์ในรายที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ แนะนำตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น เช่น การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และตับอักเสบชี ซิฟิลิส หนองใน ร่วมด้วยเพื่อรักษา
เริ่มกินยาเป๊ป (ยา PEP) 1 เม็ดเร็วที่สุดหลังสัมผัสเชื้อ (1-2 ชั่วโมง) ช้าสุดไม่เกิน 72 ชั่วโมง และทานยาเป๊ปต่อเนื่องวันละ 1 เม็ดใกล้เคียงเวลาเดิมเป็นเวลา 30 วัน หรือ 4 สัปดาห์
ในระหว่างกินยา PEP ผู้รับบริการควรงดบริจาคเลือด และใส่ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง หากเกิดความเสี่ยงขึ้นระหว่างทานยาให้ทานยาต่อเนื่องไปก่อนแล้วแจ้งแพทย์ เพื่อปรับเพิ่มระยะเวลาทานยาเป๊ปให้นานขึ้นในบางราย
แนะนำผู้รับบริการสังเกตอาการของการติดเชื้อระยะแรก เช่น ไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ ผื่นขึ้น อ่อนเพลียน้ำหนักลด เป็นต้น เนื่องจากการติดเชื้อระยะแรกอาจจะยังตรวจไม่พบเชื้อได้ หากมีอาการต้องแจ้งแพทย์เสมอเพื่อวางแผนการติดตามให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล
แพทย์จะมีการนัดตรวจติดตามหลังกินยาเป๊ป ที่ 1 และ 3 เดือนหลังกินยา เพื่อตรวจ HIV ให้มั่นใจว่าไม่มีการติดเชื้อ และติดตามอาการข้างเคียงที่เกิดได้จากการกินยาเป๊ป
ซึ่งการนัดตรวจหลังกินยาเป๊ป มีความสำคัญอย่างมาก ผู้รับบริการควรมาติดตามผลเลือดอย่างสม่ำเสมอ และประเมินความเสี่ยงต่อ หากยังมีแนวโน้มมีพฤติกรรมเสี่ยง แพทย์จะแนะนำให้ผู้รับบริการกินยาเพร็พต่อเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ดียิ่งขึ้น
หญิงตั้งครรภ์สามารถกินยาเป๊ปได้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และตัวยาไม่มีผลอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง
สามารถกินยาเป๊ปได้ แต่ผู้รับบริการต้องปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนเพื่อวางแผนแนวทางการกินยาเป๊ปร่วมกัน และแพทย์จะพิจารณาการกินยาเป๊ปเป็นรายๆไป
กินยาเป๊ปบ่อยไม่มีความอันตราย แต่เป็นการแสดงถึงแนวโน้มว่าผู้รับบริการมีความเสี่ยงสูง จึงแนะนำให้ทานยาเพร็พจะป้องกันได้ดีกว่า
ยาเป๊ป เป็นยาที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้มีใบประกอบโรคศิลป์เท่านั้น จึงสามารถติดต่อรับยาเป๊ป ได้ที่แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาล และคลินิกที่มียาเป๊ปบริการหลังการเสี่ยงติดเชื้อให้เร็วที่สุด
ยาเป๊ป PEP เป็นยาป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี HIV แบบฉุกเฉิน หลังได้รับเชื้อ หรือหลังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้ที่เพิ่งเสี่ยงต่อการสัมผัสต้องรีบรับยาเป๊ปภายใน 72 ชั่วโมง และต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วัน ป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 80% หากต้องการรับยาเป๊ป PEP สามารถติดต่อได้ที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล แนะนำว่าควรติดต่อรับยาให้เร็วที่สุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี
เอกสารอ้างอิง
Centers for Disease C, Prevention.Updated guidelines for antiretroviral postexposure prophylaxis after sexual, injection drug use, or other nonoccupational exposure to HIV—United States, 2016
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข.แนวทางการตรวจวินิจฉัย รักษา และป้องกัน การติดเชื้อ HIV ประเทศไทย ปี 2564/2565
กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงณัฐวดี ศรีบริสุทธิ์
แก้ไขล่าสุด : 13/10/2023