คลินิกฝากครรภ์ คลินิกสูตินรีเวช ราคาสบายกระเป๋า

 

คลินิกฝากครรภ์ คลินิกสูตินรีเวช


ในระหว่างตั้งครรภ์ คุณพ่อและคุณแม่จะทุ่มเทการเตรียมตัวและเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อลูกน้อยในครรภ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูกน้อยของคุณ แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองด้วย เพราะการเตรียมสิ่งดีๆเพื่อลูกน้อยนั้น ต้องมาจากการเตรียมใจ เตรียมความพร้อม

 

และมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำก่อนที่คุณจะคลอด การฝากท้องที่คลินิกฝากครรภ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของคุณและลูกน้อยในครรภ์ ในการเลือกคลินิกสูตินรีเวช มีข้อควรพิจารณาหลายประการ

สิ่งที่คุณแม่ควรรู้ในช่วงตั้งครรภ์

วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับสำหรับการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์และการเลือกคลินิกสูตินรีเวชมาฝากค่ะ มันสามารถช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเพื่อประโยชน์ของคุณและลูกน้อยของคุณได้

สิ่งที่คุณแม่ควรรู้ในช่วงตั้งครรภ์


 

 

1. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

เคล็ดลับแรกสำหรับการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ คือการฟังคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้บริการดูแลก่อนคลอด โดยคุณต้องเลือกคนที่คุณไว้วางใจในเรื่องสุขภาพของคุณและลูก ดังนั้นให้ทำตามคำแนะนำอย่างจริงจังและปฏิบัติตามแนวทางที่ทีมแพทย์ให้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย โภชนาการ และสุขภาพ

 

ควรเข้ารับการตรวจก่อนคลอดตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอและพูดคุยกับคุณหมอ หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของคุณ ควรถามกับทีมแพทย์ที่ดูแลคุณเป็นหลัก เพราะจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีและถูกต้องที่คุณควรนำไปใช้และมีประโยชน์ในช่วงเวลานี้


เลิอกการบริโภคที่ดี

2. เลือกการบริโภคที่ดี

เคล็ดลับสำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับการฝึกดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ คือ การกินให้ดี การรับประทานอาหารที่ประกอบด้วยคุณค่าทางโภชนาการครบครันจะมีประโยชน์มาก ประการแรก

 

คุณจะต้องให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการแก่ลูกน้อยของคุณ คุณจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อคุณกินผัก ผลไม้ โปรตีนไร้มัน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และธัญพืชเต็มเมล็ดในปริมาณที่มากพอ

ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามคำแนะนำด้านอาหารที่แพทย์ให้ครบถ้วนไหม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษหรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษค่ะ


ใส่ใจกับการออกกำลังกาย

3. ใส่ใจกับการออกกำลังกาย

การมีความกระตือรือร้นในการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญของการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ และควรเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการดูแลตนเองของคุณไม่ว่าคุณจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม สตรีมีครรภ์ควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ การออกกำลังกายสามารถช่วยในเรื่องต่างๆ ได้ดี เช่น การควบคุมน้ำหนัก ช่วยให้สดชื่นแจ่มใสและช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้น


เพียงแต่ต้องแน่ใจว่าคุณปรึกษากับแพทย์ก่อนเริ่มการออกกำลังกายเพื่อการตั้งครรภ์มาดีแล้ว ควรอยู่ในระดับความปลอดภัย อาจให้แพทย์ช่วยประเมินภาวะร่างกายของคุณด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ได้เคลื่อนไหวมากนักก่อนตั้งครรภ์ เมื่อตั้งครรภ์จึงไม่ควรหักโหม ค่อยเป็นค่อยไป ให้ร่างกายปรับตัวได้


การพักผ่อน

4. การพักผ่อน

การพักผ่อนเป็นส่วนสำคัญของการดูแลตนเองขณะตั้งครรภ์ สตรีมีครรภ์จำนวนมากเผชิญกับความอ่อนล้าระหว่างตั้งครรภ์ซึ่งทำให้รู้สึกร่างกายทรุดโทรม อย่างไรก็ตาม การตั้งครรภ์อาจทำให้การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอเป็นเรื่องยาก หากทำได้ ให้ลองกำหนดเวลางีบระหว่างวันเพื่อให้นอนหลับได้มากขึ้นและฟื้นฟูพลังงาน


การออกกำลังกายอาจช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรออกกำลังกายใกล้เวลานอนมากเกินไป ฝึกสุขอนามัยในการนอนหลับที่ดี และให้แน่ใจว่าคุณเข้านอนเร็วพอที่คุณจะได้นอน 7-9 ชั่วโมงก่อนตื่นนอน


5. เช็คความรู้สึกคุณพ่อ

อย่าลืมตรวจสอบความรู้สึกของคุณพ่อบ่อยๆ คุณอาจเป็นคนตั้งครรภ์ก็จริง แต่คุณพ่อก็มีความรู้สึก ความคิด และความกังวลเกี่ยวกับเด็กที่กำลังจะเป็นสมาชิกใหม่ คุณและคู่ของคุณสามารถทำหน้าที่เป็นระบบสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการปรับตัวแลพการดูแลหลังคลอดประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วย


เริ่มเตรียมการสำหรับทารก

6. เริ่มเตรียมการสำหรับทารก

หากคุณเป็นคนที่ชอบจัดระเบียบและวางแผนสิ่งต่าง ๆ เคล็ดลับการดูแลตนเองสำหรับการตั้งครรภ์นี้เหมาะสำหรับคุณ แม้ว่าคุณจะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างตลอดการตั้งครรภ์ของคุณ

 

การรวบรวมรายการสิ่งที่คุณต้องทำก่อนที่ทารกจะมาถึงจะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนควบคุมได้ ซึ่งสามารถลดความวิตกกังวล แต่อย่าเครียดกับการตรวจสอบทุกรายการ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน

 


บันทึกความรู้สึกของคุณ

7. บันทึกความรู้สึกของคุณ

ผู้หญิงหลายคนพบว่าการเขียนความรู้สึกลงในบันทึกส่วนตัวมีประโยชน์ในการจัดการความเครียดและอารมณ์ นอกจากนี้ยังทำให้เป็นของที่ระลึกที่ดีอีกด้วย คุณสามารถมองย้อนกลับไปและอ่านว่าคุณรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนี้ของชีวิตคุณ

 

การจดบันทึกสามารถช่วยให้คุณติดตามอาการต่างๆ เช่น แพ้ท้องหรือความเมื่อยล้า การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อให้คุณสามารถบอกข้อกังวลของคุณกับแพทย์ได้

เมื่อการดูแลตัวเองของคุณแม่ตามรายการดังกล่าวแล้ว ต่อไปคือการดูแลฝากครรภ์ การฝากครรภ์แต่ละครั้งจะต้องตรวจอะไรบ้าง คุณแม่ควรฝากครรภ์ให้มีคุณภาพเพื่อลูกน้อยที่รักและสุขภาพของคุณแม่เอง รวมถึงวัคซีนที่จำเป็นสำหรับหญิงตั้งครรภ์ ,การตรวจหลังคลอดและดูแลสุขภาพหลังคลอด ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามซึ่งจะกล่าวถึงในตอนช่วงท้ายของบทความ


ทำไมต้องไปฝากครรภ์

ทำไมต้องไปฝากครรภ์?

การนัดหมายฝากครรภ์จะช่วยให้แพทย์ทั่วไป พยาบาลผดุงครรภ์ และคนอื่นๆ ในทีมดูแลสุขภาพของคุณสามารถช่วยทั้งคุณและลูกน้อยของคุณให้มีสุขภาพแข็งแรง แม้ว่าการตั้งครรภ์ของคุณจะดำเนินไปด้วยดีและคุณสบายดี แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องไปนัดหมายเพื่อระบุและป้องกันหรือลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

 

คุณจะได้รับการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือเรื่องการดำเนินชีวิตของคุณรวมทั้งสุขภาพจิตหรือคำแนะนำต่างๆ ทั้งภาวะกังวล ภาวะซึมเศร้า คุณสามารถพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ ได้ทุกเรื่อง

ทั้งหมดที่กล่าวนี้ถือได้ว่าเป็นความสำคัญของการฝากครรภ์และผลดีของการฝากครรภ์ ที่คุณแม่ทุกคนต้องทำความเข้าใจค่ะ


ฝากครรภ์แต่ละครั้งต้องตรวจอะไรบ้าง

ฝากครรภ์แต่ละครั้งต้องตรวจอะไรบ้าง?

เมื่อคุณแม่ต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการฝากครรภ์ หรือฝากท้อง สิ่งที่มักจะสงสัยกันทุกๆ คน ก็คงจะเป็นต้องตรวจอะไรบ้างเวลาไปฝากครรภ์ สิ่งแรกแพทย์หรือหมอสูติที่ดูแลเรื่องการฝากครรภ์จะทำตารางนัดให้คุณแม่เข้ารับการตรวจเป็นระยะตามช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ถัดมาจะซักประวัติส่วนตัวของคุณแม่โดยรวม เช่น รอบเดือน การใช้ยา รวมถึงประวัติการเจ็บป่วย

 

มีการตรวจร่างกาย ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ปากปละฟัน เต้านมและหัวนม มีการตรวจเลือดเพื่อนำไปวินิจฉัยหมู่โลหิตระบบอาร์เอช ฮีโมโกลบิน และจะเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อนำไปตรวจหาการติดเชื้ออื่น ๆ

อัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์

ถัดมาจะเน้นการตรวจเกี่ยวกับทารก แพทย์จะอัลตร้าซาวด์ทารกเพื่อวิเคราะห์ภาพรวมของร่างกายทารก มีการคลำประเมินจากขนาดหน้าท้องที่ขยายขึ้นในแต่ละช่วงของการตั้งครรภ์ ฟังการเต้นของหัวใจทารก ประเมินการเคลื่อนไหวทารกในครรภ์ เพราะจะมีช่วงที่ทารกมักถีบและดิ้น และสุดท้ายแพทย์จะทำการตรวจท่าทางของทารกในครรภ์


วัคซีนที่จำเป็นในหญิงตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง

สำหรับการฉีดวัคซีนในหญิงตั้งครรภ์ก็ถือเป็นอีกเรื่องสำคัญที่มาควบคู่กันเมื่อคุณแม่ไปฝากครรภ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆ ทั้งคุณแม่และลูกน้อย

 

แต่อาจจะมีวัคซีนบางชนิดที่ไม่เหมาะสมกับการฉีดในหญิงตั้งครรภ์เพราะจะส่งผลอันตรายแก่ทารกได้ เช่น วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ โดยแพทย์ที่เราฝากครรภ์ด้วยจะเป็นผู้ให้คำแนะนำเมื่อถึงเวลาฉีดวัคซีน

 

วัคซีนที่คลินิกฝากครรภ์แนะนำให้ฉีดในหญิงตั้งครรภ์ ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรนและบาดทะยัก วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี

   อ่านต่อได้ในบทความวัคซีนที่จำเป็นในหญิงตั้งครรภ์

ฝากท้องและฉีดวัคซีน

ข้อมูลอ้างอิง :  บทความเรื่องวัคซีนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์  โดยรศ.นพ.วิทยา  ถิฐาพันธ์ ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 

หลังจากคุณแม่ดูแลสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์มาอย่างยาวนาน จนคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาแล้ว คุณแม่ทุกคนยังต้องเผชิญช่วงหลังคลอดที่ต้องคอยดูแลทั้งสุขภาพของตนเองและลูกน้อยอีกด้วย เราไปดูกันเลยค่ะว่าการตรวจหลังคลอดและการดูแลสุขภาพหลังคลอดต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อให้ทั้งแม่และลูกมีสุขภาพที่ดี


ตรวจหลังคลอดที่คลินิกสูตอนรีเวช

การตรวจหลังคลอด

คุณหมอจะนัดคุณแม่มาตรวจอีกครั้ง 6 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อตรวจดูว่าอวัยวะภายในต่างๆ กลับเข้าสู่สภาพปกติแล้วหรือยัง

 

ในวันนั้นจะมีการชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต และตรวจภายใน ซึ่งจะตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกให้ด้วย

 

" วันที่มาตรวจควรสวมกระโปรงหรือผ้าถุงเพื่อความสะดวก "


วิธีดูแลสุขภาพหลังคลอดต้องทำอย่างไรบ้าง

ในอดีตถือกันว่าคุณแม่หลังคลอดนั้นเป็นคนป่วย ต้องได้รับการรักษาเหมือนคนไข้ทั่วไป แต่ในปัจจุบันคุณแม่หลังคลอดก็คือคนปกติที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร เพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ ที่ต้องการการเอาใจใส่บ้างตามสมควร ด้วยการประคับประคองให้ สามารถช่วยเหลือตนเองด้านการปฏิบัติตัวหลังคลอด ระยะพักฟื้นหลังคลอด

 

โดยทั่วไปถือว่า 5-6 สัปดาห์เป็นระยะเวลาที่นานเพียงพอสำหรับร่างกาย โดยเฉพาะอวัยวะสืบพันธุ์ที่จะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพปกติเหมือนตอนที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ แต่ในเรื่องของสภาพจิตใจ การปรับตัวให้เข้ากับบทบาทของความเป็นแม่ และการเลี้ยงดูลูกน้อย คงต้องใช้เวลานานกว่านี้

 

วิธีดูแลสุขภาพหลังคลอด

 

การดูแลสุขภาพที่คุณแม่ต้องปฏิบัติคือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าครบถ้วน หลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีรสจัดของหมักดอง น้ำชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควรนอนพักให้เพียงพอ อย่างน้อย วันละ 6-8 ชั่วโมง อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ถ้ามีแผลผ่าตัดบริเวณหน้าท้องอย่าให้แผลเปียกน้ำจนกว่าจะตัดไหม 7 วันหลังผ่าตัด และทำความสะอาดบริเวณแผลฝีเย็บ

 

แม่หลังคลอดและสามี

ดูแลสุขภาพจิตของคุณแม่หลังคลอด นอกจากการปรับตัวทางร่างกายแล้ว คุณแม่ยังต้อง ปรับจิตใจให้เข้ากับสภาพของการเป็นแม่ที่สมบูรณ์ด้วย ซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ก็ คือ “สามี” ซึ่งจะต้องช่วยดูแลประคับประคองเอาใจใส่ ให้กำลังใจ แสดงความห่วงใยต่อความไม่สบายใจและความกังวลใจของคุณแม่หลังคลอด

 

รวมถึงคอยช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น กิจวัตรประจำวัน การช่วยเลี้ยงดูลูก เพื่อให้คุณแม่ได้มีโอกาสพักผ่อนบ้าง เป็นต้น

 ข้อมูลอ้างอิง : คู่มือมารดาหลังคลอดและการดูแลทารก, กรมอนามัยโดยกองอนามัยการเจริญพันธุ์


วิธีเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่

วิธีเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่

การเลี้ยงดูทารกแรกเกิดเมื่อกลับบ้านหรือห่างจากมือหมอแล้วเป็นสิ่งที่พ่อและแม่มือใหม่วิตกกังวล แต่ถ้าได้รับคำแนะนำและฝึกทักษะเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาล คลินิกฝากครรภ์ หรือคลินิกสูตินรีเวชก็ไม่เป็นเรื่องยากเกินความสามารถที่คุณพ่อคุณแม่แน่นอนค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่จะต้องศึกษาหาข้อมูลให้มากขึ้นเพื่อที่จะให้การดูแลลูกผิดพลาดน้อยที่สุด

 

วิธีการเลี้ยงลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่ มีความละเอียดอ่อนและทุกขั้นตอนล้วนสำคัญ เบื้องต้นที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกคือการให้นมลูก การอาบน้ำและสระผม การดูแลสายสะดือ การขับถ่ายของลูก การนอนและท่านอนที่เหมาะสม การไปตรวจสุขภาพและรับวัคซีนป้องกันโรค รวมไปถึงการรักษาความสะอาดสถานที่ที่ใช้เลี้ยงลูก หรือของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้กับลูกน้อย เช่น จุกนม ซึ่งวิธีการเหล่านี้คุณแม่สามารถเรียนรู้และปรึกษากับแพทย์ที่คลินิกสูตินรีเวชหรือสถานพยาบาลที่ทำการฝากครรภ์หรือคลอดบุตรได้ค่ะ


วิธีการเลือกคลินิกสูตินรีเวชสำหรับดูแลสุขภาพคุณแม่

คุณควรวางแผนว่าจะเลือกทีมดูแลฝากครรภ์อย่างไร แบบไหนที่เหมาะกับบริบทชีวิตของคุณ เพราะอย่าลืมว่าคุณจะต้องอยู่กับทีมนี้เป็นระยะเวลายาวนานหลายปี เพราะคุณจะไปพบแพทย์หรือพยาบาลผดุงครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด และดูแลต่อเนื่องกันไปยาวๆหลังคลอดอีก การเลือกทีมที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ โดยมีข้อสังเกตคือ

ห้องตรวจ คลินิกสูตินรีเวช
  • เลือกทีมแพทย์พยาบาล ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเขามีความพร้อมทั้งเรื่องของเครื่องมือ เทคโนโลยี ความรู้ การเอาใจใส่ทุกเรื่องสุขภาพ สร้างความมั่นใจและความไว้ใจให้คุณได้

  • ควรมีความพร้อมที่จะให้บริการโดยทีมแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา เพราะการดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่เพียงสูตินารีแพทย์เท่านั้น แต่ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่นๆด้วย เนื่องจากคุณแม่ จะมีความเสี่ยงหลายๆอย่าง เช่น ภาวะเบาหวาน ความดัน สุขภาพทางใจ เป็นต้น

  • มีระบบติดตามการฝากครรภ์และการนัดหมายเพื่อให้คุณไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองตามระยะต่างๆ ของการตั้งครรภ์

เจ้าหน้าที่ประจำคลินิกฝากครรภ์
  • พร้อมด้วยทีมสนับสนุนที่ดี มีพยาบาลและสหวิชาชีพด้านต่างๆ พร้อม

  • ควรมั่นใจในความปลอดภัย และให้ความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งสำคัญมากๆเช่นกัน คุณแม่ควรมีเวลาพักผ่อน ไม่เหนื่อยกับการเดินทาง การบริการที่รวดเร็วจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา

  • คุณควรเลือกสถานบริการที่ราคาควรจับต้องได้ ไม่แพงและถูกจนเกินไป มีความสมเหตุสมผล เพราะค่าใช้จ่ายเพื่อการดูแลลูกน้อยหลังคลอดยังมีอีกมากมายหลายรายการ เพราะฉะนั้นการเลือกสถานบริการที่ช่วยประหยัดงบประมาณคุณได้บ้างจึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

จากรายละเอียดต่างๆ ที่กล่าวไป คุณอาจรู้สึกว่าจะมีสถานบริการที่ครบทุกข้อหรือไม่ เราขอแนะนำอินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมค่ะ เป็นสถานบริการดูแลสุขภาพที่ครบทุกมิติ โดยคุณสามารถเลือกฝากครรภ์เหมาจ่าย สบายกระเป๋า และมีการตรวจหลังคลอด แพ็จเกจสบายกระเป๋า พร้อมบริการเสริมกรณีฝากครรภ์ต่อเนื่อง อุปกรณ์อัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) ทันสมัย สะอาด มีทีมแพทย์เยี่ยมบ้าน

 

สามารถติดตามผลการรักษาที่บ้านเพื่อให้ทราบถึงอาการและผลการรักษา และ ความสม่ำเสมอในการใช้ยาว่าครบตามที่แพทย์แนะนำหรือไม่ พร้อมด้วยทีมสหวิชาชีพที่ดูแลพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการรักษา เช่น การกินอาหาร การออกกำลังกาย อารมณ์ หรือพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ซึ่งคุณสามารถขอคำแนะนำจากแพทย์ได้ด้วย จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาดียิ่งขึ้น

ฝากครรภ์

คลินิกฝากครรภ์สูตินรีเวชและแพทย์จะแนะนำให้คุณแม่ฝากครรภ์ก่อน 12 สัปดาห์ เนื่องจากจะเกิดผลดีต่อสุขภาพของแม่และเด็ก ดังนี้

  1. สามารถยืนยันอายุครรภ์ที่แน่นอนได้

  2. แพทย์จะสามารถตรวจหาความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ เช่น โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้

  3. สามารถรักษาความผิดปกติได้เร็ว เช่น ท้องลม ท้องนอกมดลูก

  4. แพทย์สามารถควบคุมสารอาหาร และวิตามินที่เหมาะสมกับอายุครรภ์ได้

  5. คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะได้รับความรู้ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดอาการผิดปกติต่างๆ

  6. หากไม่ได้ฝากครรภ์มีโอกาสที่ลูกน้อยในครรภ์จะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าแม่ที่ฝากครรภ์ถึง 3 เท่า


ฝากครรภ์เหมาจ่าย
 

หมายเหตุ : ราคานี้เฉพาะผู้ที่ติดต่อผ่าน facebook หรือ line เท่านั้น และอายุครรภ์ที่เริ่มฝากไม่เกิน 12 สัปดาห์ ฝากต่อเนื่องกับอินทัชเมดิแคร์เฉพาะครรภ์ปกติ ไม่ใช่ครรภ์เสี่ยง

 

อัตราค่าบริการดังกล่าวไม่รวมรายการดังต่อไปนี้

  1. การตรวจอัลตร้าซาวด์นอกเหนือจากในโปรแกรม

  2. ภาวะการแพ้ท้องรุนแรงจนต้องพักรักษาตัวไว้ในโรงพยาบาล

  3. ภาวะแท้งบุตรหรือการฉีดยากันแท้ง ตกเลือด

  4. ภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก

  5. ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ของการตั้งครรภ์ เช่น เจ็บครรภ์ก่อนกำหนดที่ต้องใช่ยายับยั้งการคลอด อุบัติเหตุ เป็นไข้

  6. การบริการรวมทั้งยาและเวชภัณฑ์ที่นอกเหนือจากโปรแกรมฝากครรภ์

  7. การตัดคัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์

  8. ตรวจการทำงานของหัวใจทารกในครรภ์

 

อัลตร้าซาวด์ ultrasound

อัลตร้าซาวด์ 2 มิติ อัลตร้าซาวด์ 4 มิติ

 

ตรวจหลังคลอด ราคาสบายกระเป๋ากับอินทัชเมดิแคร์

ตรวจหลังคลอด

 

บริการเสริมเมื่อฝากครรภ์ต่อเนื่องกับอินทัชเมดิแคร์

บริการเสริมเมื่อฝากครรภ์ต่อเนื่อง


ฝากครรภ์ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมดีอย่างไร?

เมื่อตั้งครรภ์สิ่งแรกที่เราควรทำก็คือการฝากครรภ์ ซึ่งการฝากครรภ์จะช่วยให้คุณแม่ได้รับคำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ส่งผลดีทั้งกับคุณแม่และลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนกระทั่งช่วงหลังคลอด ซึ่งที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมเรามีทีมแพทย์และพยาบาลที่จะคอยดูแลคุณนับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับบริการ

อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม คือผู้ให้บริการด้านสุขภาพซึ่งได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนานจากลูกค้ามากมาย ด้วยเหตุผลด้านคุณภาพการบริการและมาตรฐานที่ผ่านการบ่มเพาะมาอย่างต่อเนื่องและการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง และนี่คือเหตุผลที่เราคือผู้นำด้านบริการสุขภาพ

ฝากครรภ์ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
  1. เรามีทีมสูตินรีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ พยาบาลและสหวิชาชีพด้านต่างๆ พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน

  2. เรามีระบบติดตามการฝากครรภ์และการนัดหมายเพื่อให้คุณไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญที่ต้องดูแลตัวเองตามระยะต่างๆ ของการตั้งครรภ์

  3. เรามีบริการดูแลพิเศษ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม พร้อมพนักงานที่ยินดีบริการด้วยหัวใจ

  4. เรามีบริการหลังคลอด ครบจบในที่เดียว เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะสามารถดูแลลูกน้อยต่อไปได้อย่างถูกต้องเหมาะสม


หลังคลอดบุตรแล้ว คุณแม่ที่ต้องการคุมกำเนิดสามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อรับบริการฝังยาคุมได้ คุณหมอจะช่วยแนะนำวิธีการแลขั้นตอนต่างๆ ที่เหมาะสมให้ ช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลบุตรได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีผลข้างเคียงต่อการให้นมบุตร อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลใจว่าจะตั้งครรภ์ครั้งใหม่ในระยะเวลาที่เร็วเกินไป การคุมกำเนิดจะช่วยให้คุณแม่วางแผนชีวิตของตนเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ให้คำปรึกษาคุณแม่ตั้งครรภ์

อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม ยังใส่ใจกับภาวะของคุณแม่ที่มีความเสี่ยงจากอาการโรคเบาหวาน, โรคความดัน, โรคเรื้อรัง, รวมถึงติดตามผู้ป่วยฝากครรภ์ ,ผู้ป่วยหลังคลอด

 

นอกจากนี้ยังสามารถร่วมวางแผนดูแลหลังคลอดเรื่องการคุมกำเนิดโดยทีมนรีเวช และดูแลเรื่องของสุขภาพผู้หญิงอย่างครบวงจรอีกด้วย

 

คุณจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมือนมีคนในครอบครัวคอยดูแล มีความสะดวกสบายสบาย มั่นใจในทีมงานที่ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีบริการส่งยาถึงบ้านไม่ต้องเดินทางมารับยาเอง

สำหรับท่านที่สนใจสามารถใช้บริการได้จากอินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมทุกสาขาใกล้บ้านเพียงค้นหาจาก คลินิกใกล้ฉัน ใน Google เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือนัดหมายกับแพทย์ได้เลยค่ะ

 


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
   Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก 
สนใจทักแชท
  @qns9056c
  อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงอรอุมา เพียรผล

  แก้ไขล่าสุด : 28/02/2023

website hit counter
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้