ไข่ตก ถือเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในสตรีวัยเจริญพันธ์ แต่ถ้าอยู่ดีๆเกิด ‘ภาวะไข่ไม่ตก’ ขึ้นล่ะ อย่างนี้ถือว่าเป็นอาการผิดปกติหรือไม่ แล้วการที่ไข่ไม่ตกสัมพันธ์กันกับอาการของ ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ PCOS อย่างไร สามารถรักษาได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบค่ะ
หัวข้อน่ารู้เกี่ยวกับภาวะไข่ไม่ตก
เกิดจากความผิดปกติบริเวณของสมองและต่อมใต้สมอง
ภาวะรังไข่ล้มเหลว (Ovarian failure) เกิดจากสาเหตุ เช่น การบกพร่องทางพันธุกรรม , การได้รับสารพิษต่อรังไข่ และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เป็นต้น
ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovarian syndrome; PCOS)
อยู่ในสภาวะมีความเครียด , การออกกำลังกายอย่างหนัก , การลดน้ำหนักในระยะเวลาอันรวดเร็ว , น้ำหนักตัวน้อยหรือมากเกินไป
มีภาวะไทรอยด์ผิดปกติ
มีการหลั่งฮอร์โมนโปรแลคตินมาก (Hyperprolactinemia)
ฮอร์โมนโปรแลคติน ผลิตโดยต่อมใต้สมอง |
ตัวอย่างอาการแสดงของภาวะไข่ไม่ตก เช่น
ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย แต่เมื่อเป็นประจำเดือนก็จะเป็นนานหรือมีปริมาณมากผิดปกติ
ขาดประจำเดือน
หน้าเป็นสิว ผิวมัน ขนดกผิดปกติ
มีบุตรยาก
อ่านเพิ่มเติม : ถุงน้ำรังไข่หลายใบ PCOS ที่มักมากับโรคอ้วน สิวเยอะ ฮอร์โมนเพศชายสูง ประจำเดือนผิดปกติ
หากไข่ไม่ตก อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติได้ เช่น มีอากาของประจำเดือนขาด ไม่มา หรือมาแบบกะปริบกะปรอย เป็นต้น
หากใครที่มีภาวะไข่ไม่ตกจะ ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้นะคะเนื่องจากไม่มีไข่สำหรับการปฏิสนธิ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการมีบุตรยาก
อ่านเพิ่มเติม : PCOS กับการตั้งครรภ์ เรื่องที่คนวางแผนมีบุตรต้องรู้
หากพบว่าไข่ไม่ตก แพทย์จะทำการหาสาเหตุ และแก้ไขสาเหตุเบื้องต้น เช่น
หากผู้ป่วยมีความเครียดมากก็ต้องกำจัดความเครียด
ควบคุมน้ำหนักไม่ให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไป
งดการออกกำลังกายหนักๆ
รับประทานทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
สังเกตุอาการของตนเอง หากมีอาการผิดปกติอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ เดินเซ มองเห็นไม่ชัด กินจุ น้ำหนักเพิ่มหรือลดมากผิดปกติ เหนื่อยง่าย ใจสั่น
แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล |
แนวทางรักษาภาวะไข่ไม่ตก จะขึ้นอยู่กับสาเหตุของแต่ละโรคโดยแนวทางการรักษา เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดน้ำหนัก ลดความเครียด, ส่วนใช้ยาเช่น ยากระตุ้นไข่ , การผ่าตัด เป็นต้น
"ส่วนใหญ่หากแพทย์เจอผู้ป่วยที่มีอายุน้อย มีความเครียด มาพบแพทย์ด้วยสาเหตุประจำเดือนไม่มา แพทย์จะแนะนำให้ลองให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และรับประทานยาปรับฮอร์โมนซึ่งอาการก็ดีขึ้น แต่หากกรณีที่สงสัยว่าเป็น pcos รวมถึงปรับพฤติกรรมแล้วไม่ดีขึ้น และสงสัยว่าเป็นภาวะอื่นๆ ก็จะแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เฉพาะทาง
ซึ่งโดยส่วนใหญ่อาจมีการอัลตร้าซาวด์ (ultrasound) เบื้องต้น หรือให้รับประทานยาปรับฮอร์โมนดูก่อน และทำการเจาะเลือด เพื่อนำไปตรวจหาอาการที่คาดว่าจะเป็นค่ะ หรืออาจมีการตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก หรือตรวจนรีเวชเพิ่มเติมด้วย"
- แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล (แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป ประจำคลินิก) -
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย แพทย์หญิงวรางคณา วิวัลย์ศิริกุล
แก้ไขล่าสุด : 15/05/2024