Last updated: 23 เม.ย 2567 | 139608 จำนวนผู้เข้าชม |
คำถามเกี่ยวกับการฝังยาคุมมีหลายคำถามที่ชวนสงสัยและไม่แน่ใจ หรือยังไม่กล้าตัดสินใจว่าจะเลือกป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการฝังยาคุมดีหรือไม่ อินทัชเมดิแคร์ได้รวบรวมคำถาม ฝังยาคุมที่พบบ่อยพร้อมคำตอบเบื้องต้น เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนและหลังฝังยาคุม
คำถาม ฝังยาคุมที่ถามกันบ่อย กดเลือกเพื่อดูคำตอบ
การใช้ยาฝังคุมกำเนิดจะทำให้ผอม เป็นฝ้า ใบหน้าหมองคล้ำ มึนศีรษะ จริงหรือไม่
ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการฝังยาคุม
ผลข้างเคียงฝังยาคุม มักจะมีอาการคล้ายกับการใช้ยาคุมกำเนิดแบบทั่วไป คือ เจ็บคัดเต้านม มีอาการปวดศีรษะ เกิดสิว ฝ้า มีอารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และในช่วงแรกของการฝังยาคุมอาจมีประจำเดือนมาแบบกะปริดกะปรอย และจะค่อยๆ หายไป ซึ่งแต่ละคนอาจมีประจำเดือนที่แตกต่างกัน เช่น บางคนมีมากขึ้น ถี่ขึ้นกว่าปกติ บางคนมาช้า มาเร็ว หรือบางคนประจำเดือนอาจไม่มาเลยก็ได้
คำถาม ฝังยาคุมข้อนี้ถามกันมาเยอะสุดเลย หลังฝังยาคุมแล้วสามารถปล่อยในได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดชนิดอื่นร่วมด้วย หากฝังยาคุมในวันแรกของรอบเดือน หรือไม่เกินวันที่ 5 ของรอบเดือน (กรณี Implanon NXT) หรือไม่เกินวันที่ 7 ของรอบเดือน (กรณี Jadelle)
แต่ถ้าฝังยาคุมข้ากว่านั้นจะต้องส่วมถุงยางอนามัยร่วมด้วย เป็นเวลา 7 วันหลังฝัง
หากฝั่งยาคุมในช่วงที่มีประจำเดือน 5 - 7 วันแรก หลังจากฝังยาคุมแล้ว หลั่งในได้โดยไม่ต้องคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วยค่ะ
แต่สาวๆ บางคนอาจมีความกังวลใจและไม่มั่นใจ แพทย์ที่คลินิกก็แนะนำว่า สามารถใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยได้ในระยะ 7 วันแรกค่ะ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลข้างเคียงแต่อย่างใด
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม การปฏิบัติตัวหลังการฝังยาคุมกำเนิด มีวิธีการอย่างไร?
ฝังยาคุมแล้วมีโอกาสท้องได้น้อยมากๆ โอกาสพลาดคือน้อยกว่า 1 ใน 100 คน คิดเป็น 0.05 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น นับว่าประสิทธิภาพฝังยาคุม สูงมากเมื่อเทียบกับการคุมกำเนิดแบบอื่นๆ
ผู้ที่สงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ไม่ควรฝังยาคุมกำเนิด หรือผู้ที่มีภาวะเลือดประจำเดือนผิดปกติ ผู้ที่เป็นมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์ต่างๆ เช่น มะเร็งเต้านม
โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฝังยาคุมว่ามีผลกระทบต่อการรักษาโรค และการคุมกำเนิดหรือไม่
ยาคุมกำเนิดแบบฝังเป็นยาคุมที่มีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์สูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกินยาคุมร่วมด้วย
ในกรณีที่ต้องการกินยาคุมร่วมด้วยเพื่อรักษาสิว แพทย์แนะนำว่าควรปรึกษาและเข้ารับการรักษาโดยตรงจากแพทย์ผิวหนัง เพราะการกินยาคุมร่วมกับการฝั่งยาคุมด้วยอาจจะเกิดผลข้างเคียงได้
หากประจำเดือนมาไม่ตรงเวลา หรือไม่ต้องการรอรอบประจำเดือน สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฝังยาคุมได้เลย โดยต้องตรวจการตั้งครรภ์ก่อน (ทั้งนี้ขึ้นกับดุลยพินิจแพทย์) หลังจากการฝังยาคุมจะต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นควบคู่กันไปอีก 7 วัน เพื่อให้ยาคุมชนิดฝัง สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเสียก่อน
โดยปกติแล้วเพื่อให้ยาคุมสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การฝังยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมจะฝังระหว่างวันที่ 1-5 ของการประจำเดือนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นหากประจำเดือนมา และอยู่ในช่วง 1- 5 วัน ของการประจำเดือน ย่อมฝังยาคุมได้อย่างแน่นอน
บางรายอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งพบได้ค่อนข้างน้อย และยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ชัดเจน ว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการฝังยาคุมจริงหรือไม่ เพราะโดยส่วนใหญ่มักจะมีปัจจัยมาจากการกินอาหารที่ไม่เหมาะสมมากกว่า
แต่ถ้ารู้สึกว่าน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น โดยไม่เกี่ยวการรับประทานอาหาร ควรปรึกษาแพทย์เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น อาจเกิดจากภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ เป็นต้น
หากฝังยาคุมในช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือน สามารถมีเพศสัมพันธ์เลย แต่ถ้าฝังยาคุมในวันอื่นๆ ของการมีรอบเดือน และต้องการมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการคุมกำเนิดวิธีอื่นควบคู่กันไป เช่น การใช้ถุงยางอนามัย เป็นต้น นี่ถือเป็นอีกหนึ่งคำถาม ฝังยาคุมสุดฮิตที่ถามกันมาเยอะมากๆเลยค่ะ
หากเทียบกับการคุมกำเนิดแบบอื่นแล้วยาฝังคุมกำเนิดนั้นถือว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุดคือมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.05 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ในขณะที่การคุมกำเนิดแบบอื่นมีโอกาสตั้งครรภ์มากกว่าคือ ใส่ห่วงคุมกำเนิด 0.2%, ยาฉีดคุมกำเนิด 0.2%, ยาเม็ดคุมกำเนิด 0.3%, สวมถุงยางอนามัย 2%, ยาคุมฉุกเฉิน 15-20% และ หลั่งภายนอก 27%
การฝังยากำเนิดจะฝังหลอดยาบริเวณต้นแขนด้านใน กึ่งกลางระหว่างรักแร้และข้อศอก โดยจะฝังเป็นรูปพัดในกรณีที่ใช้ 6 หลอด โดยฉีดยาชาให้ก่อนแล้วใช้สอดหลอดยา เข้าไปใต้ผิวหนัง แผลจะเล็กมากไม่ต้องเย็บแผลเพียงปิดด้วยพลาสเตอร์เล็ก ๆ
แผลจะหายเป็นปกติภายใน 3-5 วัน หลังจากทำไปแล้วไม่ให้แผลถูกน้ำ 7 วัน เมื่อครบ 7 วัน แพทย์จะนัดมาดูแผลอีกครั้ง
ไม่จริง การฝังยาฝังคุมกำเนิดไม่มีผลทำให้อ้วน หรือ ผอม และไม่ทำให้เกิดฝ้า หรือ หน้าดำ อาการมึนศีรษะที่เกิดขึ้นอาจไม่เกี่ยวข้องกับยาฝังคุมกำเนิด แต่ควรหาสาเหตุที่แน่นอนเสียก่อน
เนื่องจากแพทย์ต้องการดูแผลหลังฝังยาคุมเสร็จและตรวจดูตำแหน่งยาคุมว่าอยู่บริเวณที่เหมาะสม รวมถึงสามารถคลำแท่งยาคุมเจอเพื่อสะดวกและง่ายต่อการถอดเข็มยาคุมออกเมื่อครบกำหนด ดังนั้นผู้รับบริการควรไปพบแพทย์ตามนัด
เมื่อครบกำหนดเอาเข็มยาคุมออกแล้ว แต่ยังไม่ได้เอาออกไม่ได้มีอันตรายใดๆ แต่ฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดจะลดลงควรใส่ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
ไม่ควรปล่อยไว้นานเกิน 1 เดือน ในบางกรณีปล่อยไว้นานส่งผลต่อการหาเข็มยาคุมกำเนิด (หาเข็มไม่เจอ) เมื่อไปเอาออก (สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข)
ฝังยาคุมแล้วช่วยลดการปวดประจำเดือนได้ค่ะ โดยปกติแล้วการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นชนิดฉีดหรือฝัง นอกจากมีการคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็ยังสามารถมีประโยชน์ด้านการรักษาอื่นๆ ของความปกติของการมีประจำเดือนได้ค่ะ เช่น อาการปวดประจำเดือน อาการมีประจำเดือนมามาก เป็นต้นค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฝังยาคุมนั้น ผู้รับบริการควรประเมินว่าตนเองเหมาะกับการฝังยาคุมหรือไม่ หรือควรเลือกวิธีการคุมกำเนิดด้วยวิธีการอื่น หากพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสมกับตนเองสามารถติดต่อฝังยาคุมกับอินทัชเมดิแคร์ โดยค้นหา คลินิกฝังยาคุม หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม แนะนำพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาเพิ่มได้นะคะ
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
@qns9056c
อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
เรียบเรียงโดย อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
22 มี.ค. 2565
3 พ.ค. 2565
6 พ.ค. 2565
14 มี.ค. 2565