7 ข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีด และ 8 ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด

การฉีดยาคุมกำเนิด (Injection Contraceptives) เป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวิธีหนึ่ง โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ชอบทานยาคุมแบบเม็ด หรือคนที่ชอบลืมกินยาคุมบ่อยๆ โดยการฉีด 1 ครั้ง สามารถป้องกันได้นาน 1 หรือ 3 เดือน ตามชนิดของฮอร์โมนที่ใช้ฉีด ซึ่งวิธีนี้ถือว่าสะดวก ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการคุมกำเนิดด้วยวิธีไหนก็มีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง บทความนี้เราเลยมี 7 ข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีด และ 8 ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด มาฝากให้คุณได้ทำความเข้าใจเพื่อที่จะปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง
7 ข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีด
ข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีด อย่างแรกเลยก็คือ สามารถเลือกรับบริการได้ตามคลินิกหรือสถานพยาบาลที่เปิดบริการอยู่ทั่วไป เป็นวิธีที่สะดวก ไม่เสียเวลารอนาน โดยสามารถค้นหาได้ด้วยคำว่าคลินิกใกล้ฉัน แล้วจึงสอบถามเส้นทางหรือรายละเอียดต่างๆ กับคลินิกนั้นๆ
ในส่วนของราคานั้น ยาคุมกำเนิดแบบฉีด เมื่อเทียบกันโดยเฉลี่ยแล้วถือว่ามีราคาถูกกว่าการคุมกำเนิดแบบอื่น ซึ่งการฉีดยาคุมที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมของเรานั้น แบบ 1 เดือน เริ่มต้นที่ 499 บาท และแบบ 3 เดือน เริ่มต้นที่ 399 บาท เท่านั้น (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามคำวินิจฉัยของแพทย์)
ข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีดที่ถือว่าสำคัญมากก็คือมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมากไม่ว่าจะเป็นชนิด 1 เดือน หรือ 3 เดือน โดยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 99% โดยไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการลืมกินยาคุม
ยาคุมกำเนิดแบบฉีดมีส่วนช่วยลดความเครียดช่วงก่อนการมีประจำเดือน โดยส่วนใหญ่ผู้รับบริการฉีดยาคุมกำเนิดนานๆ มักไม่มีประจำเดือน
อีกหนึ่งข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีด ก็คือช่วย ลดความกังวลจากการตั้งครรภ์ หากมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงไม่ขัดขวางกระบวนการมีเพศสัมพันธ์ เช่นการไม่ต้องสวมถุงยางอนามัยที่ช่วยให้ได้รับความสุขจากเพศสัมพันธ์มากขึ้น
การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ สามารถช่วยลดภาวะลดภาวะโลหิตจาง ภาวะซีด เนื่องจากผู้ฉีดยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง มักไม่มีประจำเดือน นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการ PMS รวมถึงอาการปวดประจำเดือนได้อีกด้วย
สำหรับข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีด อีกอย่างที่น่ารู้ คือช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งรังไข่, มะเร็งเยื่อบุมดลูก, ซีสต์ที่รังไข่ รวมทั้งการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้อีกด้วย
8 ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด
สำหรับข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด ข้อแรกเลยก็คือในผู้ที่ตั้งครรภ์หรือสงสัยว่ากำลังตั้งครรภ์ไม่ควรฉีดยาคุม ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อที่จะกำหนดระยะเวลาในการฉีดอย่างเหมาะสมและปลอดภัย
ยาคุมกำเนิดแบบฉีด ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้ที่มีอายุเกิน 45 ปี เพราะมีผลต่อมวลกระดูกหากฉีดติดต่อกันเป็นเวลานาน ทั้งนี้ผลข้างเคียงต่างๆ จะหายไปเองหลังจากหยุดฉีด
ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด ข้อต่อมาก็คือผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดยาคุมว่ามีผลกระทบอะไรหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย และหากฉีดแล้วพบอาการข้างเคียงที่รุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด ข้อนี้หลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วแต่เราขอย้ำกันอีกครั้งว่าการฉีดยาคุมกำเนิดนั้นสามารถป้องกันได้เฉพาะการตั้งครรภ์แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศได้
ควรงดมีเพศสัมพันธ์ ประมาณ 7 วัน หลังการฉีดยาคุมกำเนิด เพื่อให้ฮอร์โมนออกฤทธิ์อย่างเต็มที่เสียก่อน หรือใช้การคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใส่ถุงยางอนามัย การใส่ห่วงอนามัย เป็นต้น
หลังจากการฉีดยาคุมกำเนิด ไม่ควรคลึงหรือขยี้บริเวณที่ฉีดยา เพราะอาจจะทำให้ตัวยาถูกดูดซึมเร็วเกินไป จนไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ครบตามกำหนดเวลา
ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด ที่ต้องบอกว่าสำคัญมากก็คือ ในการฉีดยาคุมกำเนิดครั้งต่อไปต้องฉีดให้ตรงตามนัด เพราะหากลืมก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง
ในการฉีดยาคุมกำเนิด ต้องให้แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางสาธารณสุขเป็นคนฉีดยาให้เท่านั้น เพื่อประสิทธิภาพการคุมกำเนิดสูงสุด รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของผู้ฉีดด้วย
ผ่านไปแล้วกับ 7 ข้อดียาคุมกำเนิดแบบฉีดรวมถึง 8 ข้อควรระวังยาคุมกำเนิดแบบฉีด ซึ่งแม้ว่าการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีนี้จะค่อนข้างปลอดภัยและได้ผล แต่ก็มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา ดังนั้นจึงควรทำโดยแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน สำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมสามารถใช้บริการได้จากอินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมทุกสาขาใกล้บ้านด้วยการค้นหาจากคลินิกใกล้ฉัน ใน Google หรือสอบถามผ่านช่องทางบนหน้าเว็บไซต์ของเราได้เลยค่ะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม