ติ่งเนื้อเกิดจากอะไร อันตรายไหม มีวิธีรักษาอย่างไร

ติ่งเนื้อเกิดจากอะไร อันตรายไหม มีวิธีรักษาอย่างไร

ติ่งเนื้อ ส่วนเกินบริเวณผิวหนังที่มักจะสร้างความรำคาญ ทำให้รู้สึกกังวลว่าการเกิดติ่งเนื้อจะมีผลเสียอะไรต่อสุขภาพหรือไม่ จะเป็นสัญญาณของโรคร้ายอะไรหรือเปล่า โดยเฉพาะคนที่รักสวยรักงาม และต้องการผิวพรรณที่สวยเรียบเนียน


หัวข้อที่ควรรู้เรื่องติ่งเนื้อ


ติ่งเนื้อคืออะไร

ติ่งเนื้อ คือ ก้อนเนื้อเล็กๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนัง มีสีและขนาดที่แตกต่างกัน มักจะเกิดเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยสามารถพบได้ตามข้อพับ ใบหน้า ตามลำตัว หรือบริเวณผิวหนังที่ย่นทับกัน เช่น คอ รักแร้ เปลือกตา มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่

หากรู้สึกว่ามีขนาดใหญ่เกินไป
หรือโตเร็วผิดปกติควรพบแพทย์
ที่คลินิกตัดติ่งเนื้อ
สนใจทักแชท

ติ่งเนื้อแบบไหนผิดปกติ

เพื่อตรวจดูว่าเป็นติ่งเนื้อธรรมดาหรือเป็นเนื้องอกที่เป็นอันตราย โดยหากติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่เกินไป แพทย์อาจจะทำการตัดติ่งเนื้อออกเพื่อลดความเสี่ยง

เนื่องจากยิ่งมีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ ก็จะเสียดสีเวลาใส่เสื้อผ้าทำให้รู้สึกเจ็บจนอาจเกิดแผลขึ้นได้   


สาเหตุที่ทำให้เกิดติ่งเนื้อ

  1. ภาวะดื้ออินซูลิน มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าปัจจัยที่มักจะทำให้เกิดติ่งเนื้อขึ้นเกี่ยวเนื่องกับดัชนีมวลกาย ภาวะไตรกลีเซอร์ไรด์สูง และภาวะดื้ออินซูลิน

  2. ภาวะอ้วน เนื่องจากผู้ที่อยู่ในภาวะอ้วนมักจะเกิดโรคผิวหนังช้าง (Acanthosis Nigricans) ซึ่งจะทำให้เกิดติ่งเนื้อขึ้นบริเวณผิวหนัง คอ และรักแร้จำนวนมาก 

  3. การตั้งครรภ์ เนื่องจากช่วงตั้งครรภ์จะทำให้ฮอร์โมนเกิดการเปลี่ยนแปลง และมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจึงทำให้เกิดผลข้างเคียงด้วยการเกิดติ่งเนื้อ หรืออาจจะเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับระบบต่อมไร้ท่อและภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลก็เป็นได้

  4. เชื้อเอชพีวี จากการนำติ่งเนื้อไปทำการวิจัยพบว่า 50 % ของกลุ่มทดลองปรากฏดีเอ็นเอของเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirs: HPV)uจึงเป็นที่สังเกตได้ว่าเชื้อเอชพีวีอาจเป็นสาเหตุของการเกิดติ่งเนื้อขึ้น

  5. พันธุกรรม สำหรับผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวเคยเป็นติ่งเนื้อขึ้นตามส่วนต่างๆ ของร่างกายก็มักจะมีโอกาสเกิดติ่งเนื้อตามกรรมพันธุ์ขึ้นได้


ลักษณะติ่งเนื้อที่อันตราย

ติ่งเนื้อส่วนใหญ่เป็น เนื้องอกผิวหนังที่ไม่อันตราย แต่บางกรณีอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งผิวหนัง หากมีลักษณะเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์

  1. โตเร็วผิดปกติ – หากติ่งเนื้อขยายขนาดเร็วภายในไม่กี่สัปดาห์ 

  2. มีเลือดออกหรือเป็นแผลเรื้อรัง – หากมีเลือดออกง่ายหรือแผลไม่หายเกิน 2 สัปดาห์

  3. สีเปลี่ยนไปจากเดิม – หากมีสีเข้มขึ้น เป็นสีดำ น้ำเงิน หรือมีหลายสีในก้อนเดียว

  4. มีขอบเขตไม่เรียบ – ติ่งเนื้อที่มีขอบไม่สมมาตร อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนัง

  5. คัน เจ็บ หรืออักเสบเรื้อรัง – หากมีอาการระคายเคืองตลอดเวลา

  6. ติ่งเนื้อที่เกิดในบริเวณที่ไม่เคยมีมาก่อน – เช่น ติ่งเนื้อที่อวัยวะเพศหรือใต้เล็บ

วิธีการกำจัดติ่งเนื้อ

  1. ผ่าตัดติ่งเนื้อ วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่ต้องระวังเรื่องเลือดออกหลังการผ่าตัด และอาจทำให้เกิดแผลเป็นขึ้นได้

  2. จี้ติ่งเนื้อ (Cauterization) วิธีนี้จะใช้ไฟจี้ติ่งเนื้อในบริเวณจุดต่างๆ ให้หลุดออกจากผิวหนัง

  3. บำบัดด้วยความเย็นจัด (Cryotherapy) แพทย์จะสอดอุปกรณ์สำหรับรักษาเข้าไปใกล้กับเส้นประสาท แล้วลดอุณหภูมิเพื่อแช่แข็งเส้นประสาท เป็นวิธีการช่วยลดความเจ็บปวดและการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี

  4. การใช้เลเซอร์ คือวิธีการกำจัดติ่งเนื้อที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง โดยการทายาชาทิ้งไว้ 45 นาที  เพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด สามารถตัดติ่งเนื้อได้แบบเฉพาะที่ จึงทำให้แผลมีขนาดเล็ก และยังสามารถรักษาโรคผิวหนังชนิดอื่นๆ เช่น  ไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, หูด ได้อีกด้วย

วิธีรักษาติ่งเนื้อ

สำหรับท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับติ่งเนื้อหรือโรคผิวหนังที่ไม่พึงประสงค์สามารถใช้บริการตัดติ่งเนื้อรวมถึงกำจัดไฝ, ขี้แมลงวัน, กระเนื้อ, หูด และฉีดคีลอยด์ได้ที่อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรมทุกสาขาใกล้บ้าน


 


บทความที่น่าสนใจ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

    

 @qns9056c

 อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม

แก้ไขล่าสุด : 13/02/2025

อนุญาตให้ใช้งานภาพโดยไม่ต้องขออนุญาต เฉพาะในเชิงให้ความรู้ หรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น โดยต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มาของ intouchmedicare.com