คนท้องนอนไม่หลับ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมากในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 สาเหตุหลัก ๆ มาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและฮอร์โมน รวมไปถึงความกังวลเกี่ยวกับลูกน้อยด้วย ซึ่งปัญหานี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งแม่และลูกได้ ดังนั้นมาทำความเข้าใจและศึกษาวิธีแก้ไขอาการนี้กันค่ะ
หัวข้อที่พบบ่อยเกี่ยวกับอาการคนท้องนอนไม่หลับ
มดลูกขยายใหญ่ขึ้น ไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะบ่อย
รู้สึกอึดอัด หายใจลำบาก นอนตะแคงลำบาก
ใจสั่น ร้อนวูบวาบ
มีอาการกรดไหลย้อน
ปวดหลัง ปวดขา เป็นตะคริว
เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์จะทำให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น จึงส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและอารมณ์ ทำให้คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์รู้สึกเครียด วิตกกังวล มีอาการง่วง แต่นอนหลับยาก
คุณแม่ตั้งครรภ์จะวิตกกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกน้อย การคลอดลูก การเลี้ยงลูก นอกจากนี้ ยังกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงร่างกายหลังคลอดอีกด้วย
รู้หรือไม่ ปัญหาคนท้องนอนไม่หลับ ไม่ใช่แค่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของแม่เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กในท้องอีกด้วย
คุณแม่ตั้งครรภ์ จะมีอาการอ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน ภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งอันตรายและต้องระวังเป็นอย่างมาก
ทารกในครรภ์ อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวน้อย และมีพัฒนาการเติบโตช้ากว่าปกติ
ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ ฝึกทำสมาธิ
ฝึกโยคะสำหรับคนท้อง
จัดท่านอน นอนตะแคง โดยใช้หมอนข้างหนุน
ทำกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ
สร้างบรรยากาศการนอน ทำห้องนอนให้เงียบสงบ ปรับอุณหภูมิให้เย็นสบาย
ทานอาหารที่มีทริปโตเฟน เช่น กล้วย นม โยเกิร์ต จะช่วยให้ผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น
ทานนมอุ่น ๆ ก่อนนอน
ในกรณีที่คนท้องมีอาการนอนไม่หลับ ไม่แนะนำให้ซื้อยานอนหลับมาทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะยาบางชนิดอาจเป็นอันตรายกับลูกน้อยได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่คลินิกสูตินรีเวช เพื่อรับคำแนะนำในการใช้ยาที่เหมาะสม และปลอดภัยต่อสุขภาพของแม่และเด็ก
แม้ว่าอาการคนท้องนอนไม่หลับจะเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย แต่ก็ไม่ควรละเลยหรือมองข้าม เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงที่อันตรายต่อคุณแม่และลูกน้อยได้ ดังนั้น คุณแม่ควรปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำที่ได้กล่าวไป แต่ถ้าหากอาการนอนไม่หลับยังไม่ดีขึ้น ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ที่คลินิกสูตินรีเวช Obstetrics-Gynecology
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย อินทัชเมดิแคร์คร์คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 15/02/2024