คันช่องคลอดหรือคันอวัยเพศหญิง เป็นอาการที่สาวๆหลายเคยเจอ หรือกำลังเจอปัญหานี้อยู่ เมื่อเจอปัญหานี้แล้วบางคนตัดสินใจรักษาด้วยการซื้อยามาทานเอง ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ได้รับยาที่ไม่ผ่านการปรึกษาจากแพทย์ และเกิดเป็นกรณีการรักษาอาการคันอวัยวะเพศที่ไม่ตรงจุด เพราะฉะนั้นท่านใดที่มีอาการดังที่กล่าวมาควรมาพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาให้ถูกวิธี
วันนี้เราจะพามาดูว่าอาการคันอวัยเพศหญิง เกิดจากอะไร สาเหตุมาจากไหน จะมีวิธีการบรรเทาอาการคันช่องคลอดอย่างไร รวมไปถึงวิธีการรักษาอาการคันอวัยเพศหญิงด้วยค่ะ
คันช่องคลอด (Vaginal Itching) คือ อาการคันบริเวณอวัยวะเพศหญิงซึ่งคันได้ทั้งภายนอกและภายในช่องคลอด ได้แก่อาการคันเนินอวัยวะเพศหรือเนินหัวหน่าว (mons pubis), บริเวณขน, ปุ่มคลิตอริส (Clitoris), แคมใหญ่ (Labia Majora), แคมเล็ก (Labia Minora), กลีบ และคันเข้าไปในช่องคลอด ช่องปัสสาวะ (Urethral Opening) จนถึงปากช่องคลอด (Vaginal Opening) อาจจะส่งผลให้มีการติดเชื้อในช่องคลอดหรือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงมีอาการตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด ร่วมด้วย
คันช่องคลอด เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คันอวัยวะเพศ มี 2 แบบคือ คันภายนอกอวัยวะเพศ และคันภายในอวัยะเพศ ซึ่งมีสาเหตุการคันไม่เหมือนกัน ตามรายละเอียดด้านล่าง
หากมีอาการอื่นใด นอกเหนือจากอาการคันช่องคลอด ให้พบแพทย์เพื่อทำการประเมินเพิ่มเติม หากมีอาการคันอวัยเพศหญิงภายนอก โดยไม่มีอาการอื่นร่วม อาจพิจารณาบรรเทาอาการดังต่อไปนี้
ทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า หรือสบู่ที่อ่อนโยนวันละ 1 ครั้งเฉพาะภายนอก
งดเว้น การใช้สบู่ที่มีสารทำความสะอาดรุนแรง (เช่นสบู่สมุนไพร หรือสบู่ที่ใช้แล้วมีความตึงผิวสูง) บริเวณจุดซ่อนเร้น ให้ใช้สบู่ที่มีความอ่อนโยน หากจำเป็น *การใช้สบู่ที่มีความรุนแรงมากเกินไป อาจทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณปากช่องคลอด ทำให้ผิวหนังแห้ง และคันมากขึ้น
ห้ามสวนล้างช่วงคลอดโดยเด็ดขาด
หลังเสร็จกิจจากการถ่ายหนัก ควรทำความสะอาดจากหน้าไปหลัง เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากทวารหนัก
หลีกเลี่ยงการเสียดสีจากการใส่กางเกงในที่มีขนาดเล็กเกินพอดี
หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าอนามัยชนิดสอดเข้าไปในช่องคลอด
อาการร่วมที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการตกขาวผิดปกติ ซึ่งมักมีสาเหตุจากการติดเชื้อที่กล่าวไปข้างต้น นอกจากนี้ยังมีอาการร่วมอื่นๆที่พบได้ ดังนี้
มีไข้
ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย
มีแผลบริเวณปากช่องคลอด
มีอาการปัสสาวะขัด
มีเลือดออกผิดปกติ
หากมีอาการร่วมข้อใดข้อหนึ่ง ให้พบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินเพิ่มเติม
ซักประวัติอาการร่วมอื่นๆที่มากับอาการคันช่องคลอด รวมไปถึงประวัติเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน
แพทย์จะทำการตรวจภายใน เพื่อประเมินรอยโรคบริเวณปากช่องคลอด ในช่องคลอด รวมไปถึงปากมดลูก อาจพิจารณาเพื่อส่งตรวจหาเชื้อ หากมีลักษณะที่บ่งถึงการติดเชื้อร่วมด้วย
1. แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาอาการคันช่องคลอด คันอวัยเพศหญิง จากอาการร่วมเป็นหลัก หากมีอาการตกขาวผิดปกติร่วมด้วย แพทย์อาจพิจารณาให้ยาดังต่อไปนี้
คันช่องคลอด ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะรับประทาน เช่น Metronidazole, Clindamycin หรือ Doxycycline
คันช่องคลอด ร่วมกับการตกขาวที่มีลักษณะเหมือนเชื้อรา อาจพิจารณาให้ยาเหน็บในช่องคลอด เช่น Clotrimazole ชนิดเหน็บ
คันช่องคลอด ร่วมกับประวัติเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาเพื่อครอบคลุม เชื้อโรคในกลุ่มหนองใน เช่น Ceftriaxone ชนิดฉีด ร่วมกับยารับประทาน Azithromycin
2. แพทย์อาจพิจารณาให้ยาทา หากมีเพียงอาการคันบริเวณภายนอก ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะอาการร่วม เช่น ยา Clotrimazole cream หรือ Low-strength corticosteroid เป็นต้น
3. อาการคันช่องคลอด อาจพิจารณาให้ยาแก้แพ้รับประทานในกลุ่ม Anti-histamine เพื่อลดอาการคันได้เช่นกัน
เอกสารอ้างอิง
รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์. ภายใน’ ดูแลอย่างไรดี. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล.
ผศ.นพ. ชัยเลิศ พงษ์นริศร. ภาวะตกขาว (Vaginal Discharge). คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Barad, D. H. Vaginal itching and discharge - gynecology and Obstetrics. MSD Manual Professional Edition.
เรียบเรียงโดย นายแพทย์จิตรทิวัส อำนวยผล
แก้ไขล่าสุด : 27/12/2023