แพ้ผ้าอนามัย คันช่องคลอด มีตุ่ม ทำยังไงดี?

แพ้ผ้าอนามัย คันช่องคลอด มีตุ่ม ทำยังไงดี?

สำหรับใครที่กำลังมีปัญหา ใส่ผ้าอนามัยแล้วคัน แสบ เป็นผื่น หรือมีตุ่มขึ้น คุณอาจกำลังแพ้ผ้าอนามัยโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาสาว ๆ มารู้จัก “อาการแพ้ผ้าอนามัย” เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม เกิดจากอะไร มีอาการยังไง ต้องรักษาและป้องกันอย่างไร เพื่อช่วยให้สาว ๆ จัดการปัญหากวนใจได้อย่างถูกต้อง

หัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องแพ้ผ้าอนามัย


แพ้ผ้าอนามัยเกิดจากอะไร?

แพ้ผ้าอนามัย (Pad rash) เป็นอาการระคายเคืองหรืออักเสบของผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณที่สัมผัสกับผ้าอนามัย ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากสารเคมีหรือวัสดุที่ใช้ในการผลิตผ้าอนามัย เช่น เส้นใยสังเคราะห์ สารฟอกขาว สารกันเสีย สารดูดซับของเหลว น้ำหอม เป็นต้น โดยอาการแพ้ผ้าอนามัยเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มักพบในผู้หญิงที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย หรือผู้ที่ใส่ผ้าอนามัยเป็นเวลานาน


อาการแพ้ผ้าอนามัย เป็นยังไงบ้าง

อาการแพ้ผ้าอนามัย จะแตกต่างกันไปตามสภาพร่างกายและภูมิคุ้มกันของแต่ละคน โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่

อาการแพ้ผ้าอนามัย

1. แพ้แล้วมีอาการคัน

สาว ๆ จะรู้สึกคันบริเวณผิวหนังที่มีการสัมผัสกับผ้าอนามัย หรืออาจมีผื่นแพ้ร่วมด้วย เป็นอาการแพ้ที่ก่อให้เกิดความรำคาญและกวนใจสุด ๆ

2. แพ้ผ้าอนามัยแล้วผิวลอก

เมื่อผิวหนังที่บอบบางสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้หรือสารก่อการระคายเคืองในผ้าอนามัย จะทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง เกิดผื่นแดง บวม แสบร้อน และอาจลอกเป็นสะเก็ดได้

3. แพ้ผ้าอนามัยแล้วมีตุ่ม

ในบางคนอาจพบตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองขึ้นตรงบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับผ้าอนามัย และอาจมีอาการคันระคายเคืองร่วมด้วย

 

4. แพ้ผ้าอนามัย มีตกขาว

อาการแพ้ผ้าอนามัยอาจทำให้เกิดอาการตกขาวได้ด้วย โดยสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในผ้าอนามัยจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุช่องคลอด ส่งผลให้เยื่อบุช่องคลอดผลิตสารคัดหลั่งออกมามากขึ้น ซึ่งก็คือ “ตกขาว” นั่นเอง

5. แพ้ผ้าอนามัย แล้วคันช่องคลอด

เมื่อผิวหนังบริเวณช่องคลอดสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ ในผ้าอนามัยอาจเกิดการระคายเคืองจนทำให้สาว ๆ มีอาการคันช่องคลอดจากการแพ้ผ้าอนามัยได้


วิธีบรรเทาและรักษา อาการแพ้ผ้าอนามัย

เปลี่ยนยี่ห้อผ้าอนามัยเมื่อมีอาการแพ้ผ้าอนามัย
หากมีอาการแพ้ผ้าอนามัย เบื้องต้นควรหยุดใช้ผ้าอนามัยยี่ห้อนั้นและเปลี่ยนไปใช้ผ้าอนามัยที่ผลิตจากวัสดุหรือสารเคมีที่แตกต่างจากเดิม หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยที่มีส่วนผสมของสารก่อภูมิแพ้ เช่น พาราเบน น้ำหอม เป็นต้น ให้เลือกใช้ผ้าอนามัยที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ และสามารถระบายอากาศได้ดี
ป้องกันการแพ้ผ้าอนามัย เด้วยการปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-6 ชั่วโมง

นอกจากนี้ การดูแลรักษาบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันอาการแพ้ผ้าอนามัยได้ และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ อย่างน้อยทุก 4-6 ชั่วโมง หรือหากมีประจำเดือนปริมาณมาก ก็ควรเปลี่ยนให้บ่อยมากขึ้น เพื่อลดการอับชื้นที่อาจก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค

หากแพ้ผ้าอนามัยควรหลีกเลี่ยงการเกาตุ่มคัน

และที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการเกาตุ่มคัน เพราะอาจทำให้ผิวหนังอักเสบและติดเชื้อได้ โดยทั่วไปอาการแพ้ผ้าอนามัยมักหายได้เองภายใน 2-3 วัน แต่หากมีอาการรุนแรง เรื้อรัง หรือมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง โดยแพทย์อาจให้เป็นยาทาหรือยากิน ที่จะช่วยให้อาการแพ้ผ้าอนามัยหายได้เร็วขึ้น


แพ้ผ้าอนามัย คัน แสบใช้ยาอะไร

หากอาการคันช่องคลอดบริเวณที่แพ้อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อาจใช้ยาทาบริเวณที่คัน เพื่อช่วยลดอาการอักเสบและช่วยให้อาการคันลดลง โดยแนะนำให้ปรึกษาเภสัชกรที่ร้านขายยา เนื่องจากอาการแพ้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน นอกจากนั้น ยังต้องพิจารณาข้อมูลการใช้ยาร่วมกับยารักษาโรคประจำตัว และข้อมูลการแพ้ยาร่วมด้วย

แต่ถ้าหากสาวๆ มีอาการแพ้ผ้าอนามัยรุนแรง มีอาการเรื้อรังนานหลายวัน หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่น ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

 


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

  Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก

สนใจทักแชท

  @qns9056c

  อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม


เรียบเรียงโดย อินทัชเมดิแคร์คลินิชเวชกรรม
 แก้ไขล่าสุด : 16/12/2023 

hit counter
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้