ในบทความนี้จะพามาดูว่าใครบ้างควรได้รับยา pep หรือยาต้านไวรัสฉุกเฉิน ซึ่งได้แก่ ผู้ที่ไม่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี HIV ผู้ที่ไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ รวมถึงผู้มีได้รับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี HIV ดังนี้
การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็น hiv หรือกรณีที่ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายเป็น hiv หรือไม่ มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักและทางช่องคลอด ทั้งเป็นฝ่ายรับและฝ่ายรุก โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยหรือถุงยางอนามัยแตก ถุงยางหลุด ถือว่ามีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดและรับยา pep
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ : ยาเป๊ป ยาต้านเอดส์ฉุกเฉิน ป้องกัน HIV ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา PEP
ผู้ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกข่มขืนทั้งทางทวารหนักและทางช่องคลอดถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อเอชไอวี
ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวีโดยประมาณตามลักษณะของการสัมผัส
ลักษณะการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี ต่อ 10,000 ครั้งต่อการสัมผัส |
ทางทวารหนักโดยเป็นฝ่ายรับ 138 ครั้ง |
ทางทวารหนักโดยเป็นฝ่ายรุก 11 ครั้ง |
ทางช่องคลอดโดยเป็นฝ่ายรับ 8 ครั้ง |
ทางช่องคลอดโดยเป็นฝ่ายรุก 4 ครั้ง |
ทางปากโดยเป็นฝ่ายรับหรือรุก ต่ำมาก |
เอกสารอ้างอิง : แนวปฏิบัติในการให้ยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในเด็กและวัยรุ่นที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
การสัมผัสสารคัดหลังต่างๆ ผ่านทางผิวหนังรวมทั้งสัมผัสเลือดที่มีโอกาสถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีสูง เช่น ถูกเข็มต่ำ, ผ่านทางเยื่อบุ เช่น กระเซ็นเข้าตา ปาก หรือผ่านผิวหนังที่ไม่ปกติ เช่น มีบาดแผล รอยแตก มีผื่น เป็นต้น
บทความที่น่าสนใจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Hot Line 081-562-7722 กดโทรออก
เรียบเรียงโดย อินทัชเมดิแคร์คลินิกเวชกรรม
แก้ไขล่าสุด : 13/02/2024